Citadel จี้ ก.ล.ต. สหรัฐฯ บังคับแพลตฟอร์ม DeFi ให้ปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ – เสียงเตือนจากยักษ์การเงินดั้งเดิม
เสียงปืนนัดแรกดังขึ้นแล้วในสงครามระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่ทางการเงิน Citadel Securities ยักษ์ใหญ่ตลาดซื้อขายล่วงหน้า ออกโรงเรียกร้องให้ ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) ใช้กฎหมายหลักทรัพย์ที่มีอยู่บังคับใช้กับแพลตฟอร์ม DeFi ทันที
คำถามที่ร้อนแรง: DeFi คืออนาคต หรือเป็นเพียงเครื่องมือเลี่ยงกฎ?
ฝั่ง Citadel ยืนกราน: นี่ไม่ใช่เรื่องของนวัตกรรม แต่เป็นเรื่องของความเท่าเทียม ตรรกะเรียบง่ายแต่ทรงพลัง – ถ้ากิจการเดียวกัน สร้างผลตอบแทนแบบเดียวกัน และดึงดูดนักลงทุนกลุ่มเดียวกัน มันก็ควรอยู่ใต้กรอบกฎหมายเดียวกัน นี่คือการเรียกร้องให้ ‘ปรับระดับสนามแข่งขัน’ จากผู้เล่นรายใหญ่ที่เล่นด้วยกฎเดิมมายาวนาน
มองอีกมุม: นี่คือการป้องกันตัวของสถาบันดั้งเดิม
การเคลื่อนไหวของ Citadel สะท้อนความกังวลที่ลึกกว่า แพลตฟอร์ม DeFi ที่ทำงานด้วยสัญญาอัจฉริยะและกระจายอำนาจ กำลังกัดเซาะส่วนแบ่งตลาดและทำลายโมเดลรายได้ดั้งเดิม การเรียกร้องให้ ก.ล.ต. เข้ามาควบคุมอาจดูเหมือนเป็นการปกป้องนักลงทุน แต่สำหรับหลายคนในวงการคริปโต มันคือการพยายามตีกรอบและชะลอนวัตกรรมที่ควบคุมยาก
ความท้าทายของ ก.ล.ต.: จับปล่อยไหนในมหาสมุทรไร้ศูนย์กลาง
นี่คือปัญหาคลาสสิกของหน่วยกำกับดูแล: จะใช้กฎเกณฑ์ที่ออกแบบสำหรับตลาดที่มีตัวกลางชัดเจน ไปบังคับใช้กับระบบที่ออกแบบมาให้ ‘ไร้ตัวกลาง’ ได้อย่างไร? การบังคับใช้ต่อผู้พัฒนาสัญญาอัจฉริยะ หรือโหนดผู้ให้สภาพคล่องที่กระจายอยู่ทั่วโลก เป็นสมรภูมิทางกฎหมายและเทคนิคที่เต็มไปด้วยความคลุมเครือ
บทสรุป: การปะทะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กำลังใกล้เข้ามา
เสียงเรียกร้องจาก Citadel เป็นเพียงจุดเริ่มต้น แนวทาง ‘ยิงก่อนถามคำถาม’ ของ ก.ล.ต. ต่ออุตสาหกรรมคริปโตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายหลักทรัพย์ต่อ DeFi อาจไม่ใช่เรื่อง ‘ถ้า’ แต่เป็นเรื่อง ‘เมื่อไหร่’ สงครามครั้งนี้จะกำหนดรูปร่างของอนาคตการเงินในอีกหลายทศวรรษ – จะเป็นระบบเปิดและไร้ศูนย์กลางอย่างที่ฝันไว้ หรือจะถูกดูดกลืนเข้าสู่กรอบกฎเกณฑ์เดิมที่มีวอลล์สตรีทนั่งอยู่บนบัลลังก์ ราวกับว่านวัตกรรมทางการเงินเป็นเพียงเส้นทางลัดสู่ความมั่งคั่งที่ต้องถูกเก็บภาษีและควบคุมโดยสถาบันเก่า
เธอเรียกร้องให้ทาง SEC ปัดตกข้อเสนอดังกล่าวออกไป และให้มุ่งเน้นการกำกับดูแลไปยังตัวกลางที่แท้จริงซึ่งอยู่ระหว่างนักลงทุนและสินทรัพย์ที่แท้จริงจะดีเสียกว่า
ทั้งนี้ สมาคมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และการเงิน (Securities Industry and Financial Markets Association – SIFMA) ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าในอุตสาหกรรม ได้ออกแถลงการณ์ที่คล้ายกันเมื่อวันพุธ โดยสนับสนุนนวัตกรรม แต่ยืนยันว่าหลักทรัพย์ในรูปแบบโทเคน จะต้องอยู่ภายใต้การคุ้มครองนักลงทุนพื้นฐานแบบเดียวกับระบบการเงินดั้งเดิม
SIFMA นำเหตุการณ์ Flash Crash เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมขึ้นมายกตัวอย่างว่าทำไมการกำกับดูแลจึงจำเป็น เพราะพวกเขาต้องปกป้องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงตัวนักลงทุน
นอกเจากนี้ สหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์โลก (World Federation of Exchanges) ซึ่งเป็นกลุ่มที่แทนตลาดหลักทรัพย์หลักๆ ยังได้เรียกร้องให้ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ยกเลิกแผนการที่จะให้ ‘ข้อยกเว้นด้านนวัตกรรม’ แก่บริษัทคริปโตที่ต้องการเสนอขายหุ้นในรูปแบบโทเคน ด้วยเช่นกัน ทำให้ในตอนนี้ประเด็นดังกล่าวเริ่มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นมากกว่าเดิม
ที่มา : Cointelegraph
