BTCC และการรักษาความปลอดภัย

ก่อนที่คุณจะเริ่มเทรดคริปโตเคอร์เรนซี คุณอาจกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการรักษาความปลอดภัย BTCC มุ่งมั่นที่จะมอบการรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดของอุตสาหกรรมให้กับผู้ใช้ ดังนั้นคุณจึงสามารถเทรดคริปโตได้อย่างง่ายดายและมั่นใจ ด้านล่างนี้เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เรานำมาใช้กับ BTCC ในตอนท้ายของบทความนี้ เราจะแนะนำเคล็ดลับบางอย่างเพื่อช่วยคุณยกระดับการรักษาความปลอดภัยบัญชีของคุณให้ดีขึ้น

ปกป้องคุ้มครองสินทรัพย์ของคุณ

การจัดเก็บแบ่งแยกสินทรัพย์อย่างชัดเจน (Segregation of Asset)

มาร์จิ้นของผู้ใช้จะถูกแยกออกจากบัญชีทรัสต์ (Trust Account) เราจัดเก็บสินทรัพย์ของผู้ใช้ไว้ในกระเป๋าออฟไลน์ (Cold Wallet) แบบหลายลายเซ็น* เพื่อให้มีการรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น

เราจัดเก็บสินทรัพย์ของผู้ใช้ไว้ในกระเป๋าออฟไลน์ (Cold Wallet) แบบหลายลายเซ็น* เพื่อให้มีการรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น

การจัดเก็บสินทรัพย์ของผู้ใช้แบบ 1:1

สินทรัพย์ของผู้ใช้จะถูกจัดเก็บบน BTCC ในแบบหนึ่งต่อหนึ่ง: จะมีการจัดเก็บ Bitcoin หากผู้ใช้ฝาก Bitcoin และจะมีการจัดเก็บ Tether หากผู้ใช้ฝาก Tether โดยเงินทุนของผู้ใช้และสินทรัพย์ของบริษัทจะถูกแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง สถานการณ์ที่ลูกค้าจำนวนมากแห่ถอนเงินฝากออกไม่สามารถเป็นไปได้

การป้องกันการฟอกเงินและการยืนยันพิสูจน์ตัวตน

นอกเหนือจากการปกป้องคุ้มครองสินทรัพย์ของผู้ใช้แล้ว BTCC ยังมีชุดมาตรการป้องกันการฟอกเงิน (AML/CTF) อีกด้วย

เนื่องจากลักษณะของคริปโตเคอร์เรนซีที่มีความเป็นส่วนตัวและการไม่เปิดเผยตัวตน จึงอาจกลายเป็นเครื่องมือสำหรับผู้ฟอกเงินให้ใช้งานได้อย่างง่ายดายหากไม่มีการกำกับดูแล เพื่อเป็นการส่งเสริมกลไกการป้องกันการฟอกเงินให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น BTCC กำหนดให้ผู้ใช้ตรวจสอบยืนยันตัวตนผ่านขั้นตอนการตรวจสอบยืนยันตัวตน (KYC) ก่อนที่จะฝากและถอนเงินในสกุลเงินเฟียต แม้จะมีความไม่สะดวกสบายเกิดขึ้น แต่นี่ก็เป็นมาตรการที่จำเป็นต่อการรักษาแพลตฟอร์มให้ปลอดภัยอยู่เสมอ

ไม่มีโทเคนหลักประกัน (Collateralising Token) สำหรับการกู้ยืม

BTCC ไม่มีการออกโทเคน และและเราเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด เราไม่ได้ลงทุนหรือมีส่วนร่วมในการนำเหรียญมาวางเป็นหลักประกัน (Staking) หรือโครงการ DeFi ใดเลย สถานการณ์ทางการเงินของ BTCC จะไม่ได้รับผลกระทบจากการทุบราคาโทเคนหรือสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง ผู้ใช้สามารถถอนสินทรัพย์ของตนได้ตลอดเวลา

การสื่อสารและการเข้าสู่ระบบที่ปลอดภัย

เครือข่ายการสื่อสารแบบเข้ารหัส

SSL: เราใช้การเข้ารหัสแบบ SSL เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เพื่อดูว่าเว็บไซต์ของเรามีการเข้ารหัสแบบ SSL โปรดคลิกที่สัญลักษณ์แม่กุญแจในแถบ URL

นอกจากนี้ ยังมีการเข้ารหัสข้อมูลบัญชีที่ละเอียดอ่อนทั้งหมดในระดับข้อมูลและระบบ และมีการเฝ้าติดตามการเข้าถึงอย่างเข้มงวด

การเข้าสู่ระบบที่ปลอดภัย

การพิสูจน์ตัวตนแบบ 2 ชั้น (2FA): คุณสามารถตั้งค่าการพิสูจน์ตัวตนแบบ 2 ชั้นได้โดยใช้โทรศัพท์ อีเมล หรือ Google Authenticator

คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าการพิสูจน์ตัวตนแบบ 2 ชั้นได้ที่นี่

เพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัย BTCC เวอร์ชันเว็บมีส่วนประวัติการเข้าสู่ระบบสำหรับผู้ใช้เพื่อตรวจสอบเวลาและสถานที่ที่เข้าถึงบัญชีของตน

การทดสอบเจาะระบบ

ทีมผู้เชี่ยวชาญของ BTCC ดำเนินการตรวจสอบระบบภายในและภายนอกอย่างเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่า BTCC จะปราศจากแฮกเกอร์

บัญชีถูกล็อกจากการพยายามเข้าสู่ระบบไม่ถูกต้องหลายครั้งเกินไป

หากคุณป้อนรหัสผ่านผิดหลายครั้งขณะเข้าสู่ระบบ บัญชีของคุณจะถูกล็อก

คุณยังจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมลหรือ SMS เพื่อแจ้งให้คุณทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อปกป้องบัญชีของคุณจากแฮกเกอร์

อยู่ภายใต้การกำกับดูแลและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก

ใบอนุญาตด้านระเบียบข้อบังคับ

BTCC ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจในประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ภายใต้หลักความชอบด้วยกฎหมายและการปฏิบัติตามข้อกำหนด ปัจจุบัน BTCC ได้รับใบอนุญาตด้านระเบียบข้อบังคับในหลากหลายประเทศ ในอนาคต BTCC ยังจะให้ความสำคัญกับการเติบโตทางธุรกิจและการปฏิบัติตามกฎระเบียบมากขึ้นอีกด้วย

สหรัฐอเมริกา
ใบอนุญาตคริปโตที่ออกโดย Financial Crimes Enforcement Network (FinCEN) ในประเทศสหรัฐอเมริกา
แคนาดา
ใบอนุญาตคริปโตที่ออกโดย Financial Transactions and Reports Analysis Centre of Canada (FINTRAC)
ยุโรป
ใบอนุญาตคริปโตที่ออกโดย Registrar of Legal Entities of Lithuania

ได้รับการยอมรับจากแพลตฟอร์มข้อมูลนคริปโต

BTCC อยู่ในอันดับที่ 10 จากปริมาณการเทรดทั้งบน CoinMarketCap และ CoinGecko ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มข้อมูลคริปโตที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงและยอมรับ BTCC จากสื่อและองค์กรภายในอุตสาหกรรมในหลากหลายภาษา

ตรวจสอบความถูกต้อง PCI DSS แล้ว

ในเดือนมีนาคมของปี 2023 BTCC บรรลุการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (Payment Card Industry Data Security Standard - PCI DSS) ซึ่งรับประกันว่าความเสี่ยงของการฉ้อโกงบัตรเครดิตและการบุกรุกเว็บไซต์ที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตีทางไซเบอร์จะลดลงอย่างมาก

การบำรุงรักษาและการอัปเดตเป็นประจำ

เพื่อให้มั่นใจถึงการรักษาความปลอดภัยระบบของแพลตฟอร์มและปรับแต่งประสบการณ์ของผู้ใช้ให้เหมาะสมที่สุด BTCC จึงดำเนินการบำรุงรักษาและอัปเดตทั้งแอปและแพลตฟอร์มเว็บเป็นประจำ

ผู้ใช้จะได้รับแจ้งถึงการอัปเดตในแต่ละครั้ง โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสามารถรับอีเมล การแจ้งเตือนแบบพุช และข้อความตัวอักษรจาก BTCC ได้

เคล็ดลับเพื่อการรักษาความปลอดภัยบัญชีของคุณที่ดีขึ้น

☑ ใช้รหัสผ่านที่รัดกุม ดูแลรักษารหัสผ่านให้ปลอดภัยอยู่เสมอ และเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ

รหัสผ่านที่ผู้โจมตีแครกเอามาได้มักจะเป็นคำและวลีทั่วไป เราขอแนะนำให้ผู้ใช้สร้างรหัสผ่านที่มีอักขระอย่างน้อย 8 ตัว โดยรวมตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์เข้าด้วยกัน

ตรวจสอบประวัติการเข้าสู่ระบบของคุณเป็นประจำ

ผู้ใช้สามารถตรวจสอบประวัติการเข้าสู่ระบบของตนได้ที่หน้าการรักษาความปลอดภัยบัญชีของ btcc.com หากคุณพบระเบียนบันทึกหรือ IP การเข้าสู่ระบบที่ไม่รู้จัก โปรดเปลี่ยนรหัสผ่านทันที หรือติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเพื่อขอความช่วยเหลือ

ใช้การพิสูจน์ตัวตนแบบ 2 ชั้น (2FA)

เมื่อเปิดใช้งานการพิสูจน์ตัวตนแบบ 2 ชั้น คุณจำเป็นต้องใช้รหัสตรวจสอบยืนยันพิเศษแบบใช้ครั้งเดียวหลังจากป้อนรหัสผ่าน ด้วยวิธีนี้ บัญชีของคุณจะยังคงปลอดภัยอยู่แม้ว่ารหัสผ่านของคุณจะถูกขโมย โดยผู้ใช้งานที่ BTCC สามารถใช้อีเมล SMS หรือ Google Authenticator เพื่อรับรหัสตรวจสอบยืนยันหลังจากป้อนรหัสผ่านของคุณได้

ทำการตรวจสอบยืนยันตัวตน (KYC) ให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด

การทำ KYC ให้เสร็จสมบูรณ์ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณใช้งานฟังก์ชันการฝากและถอนเงินทั้งหมดและมีวงเงินการถอนเงินสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับการรักษาความปลอดภัยบัญชี BTCC ของคุณอีกด้วย ทีมสนับสนุนลูกค้าของเราจะสามารถตอบคำถามของคุณได้รวดเร็วขึ้นด้วย

จัดการที่อยู่ของคุณอย่างระมัดระวัง

เพื่อป้องกันสินทรัพย์สูญหายอันเนื่องมาจากการโอนเงินทุนไปยังที่อยู่ผิด เราขอแนะนำให้ผู้ใช้ใช้งานฟังก์ชัน "เพิ่มไปยังสมุดที่อยู่" เพื่อบันทึกที่อยู่ที่คุณใช้บ่อย โปรดทำให้แน่ใจว่าคุณได้ตรวจสอบและแก้ไขที่อยู่ที่บันทึกไว้ให้ถูกต้อง

จุดประเด็นก่อนจบ

ตลอดระยะเวลากว่า 12 ปีของการดำเนินธุรกิจในโลกแห่งคริปโตเคอร์เรนซี BTCC ไม่เคยถูกแฮกหรือประสบกับการละเมิดการรักษาความปลอดภัยแม้แต่ครั้งเดียว BTCC ให้การรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดในอุตสาหกรรม และจะยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยต่อไปเพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ทุกคน

ต้องการรับข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและคริปโตเคอร์เรนซีใช่ไหม ติดตามเราบน Twitter เพื่อดูการอัปเดตล่าสุด

กระเป๋าออฟไลน์ (Cold Wallet) หมายถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ไม่มีการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคลที่สาม แฮกเกอร์ทางไซเบอร์ หรือขโมย กระเป๋าออฟไลน์ (Cold Wallet) ช่วยขจัดความเสี่ยงด้านการรักษาความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยมีการจัดเก็บเงินทุนในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ด้วยกุญแจส่วนตัว (Private key) ป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์เข้าถึงเงินทุนเหล่านั้นได้

การต่อต้านการฟอกเงิน (Anti Money Laundering – AML) เป็นชุดกลไกที่ใช้ในการตรวจจับและป้องกันผู้ใช้จากการฟอกเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย โดยมีเป้าหมายเพื่อขัดขวางไม่ให้บุคคลแสวงหาผลกำไรผ่านกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย; การต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (Counter-Terrorism Financing - CTF) เป็นกลไกที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการฟอกเงินที่ดำเนินการโดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายในการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซี

Exchange for a better future

ผลิตภัณฑ์

บริการ

คำแนะนำ

เกี่ยวกับเรา

ข้อกำหนดและข้อตกลง

บริการลูกค้า

คำเตือนความเสี่ยง: การเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นอุตสาหกรรมเกิดใหม่ที่มีแนวโน้มสดใส แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอย่างมากเนื่องจากเป็นตลาดใหม่ ความเสี่ยงจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษสำหรับการเทรดแบบมีเลเวอเรจ เนื่องจากเลเวอเรจจะเพิ่มทั้งผลกำไรที่เป็นไปได้และขนาดของความเสี่ยงไปพร้อมกัน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรม ลักษณะการเทรดแบบใช้เลเวอเรจ และกฎการเทรดอย่างถ่องแท้ก่อนที่จะเปิดสถานะการซื้อขาย นอกจากนี้ เรายังขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณพิจารณาระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของคุณและยอมรับเฉพาะความเสี่ยงที่คุณยินดีรับเท่านั้น การเทรดทั้งหมดมีความเสี่ยง ดังนั้นคุณต้องระมัดระวังเมื่อเข้าสู่ตลาด

ที่แนะนำ

เรียนรู้

การสนับสนุน

เกี่ยวกับเรา