BTC Price Prediction 2025: จุดเปลี่ยนสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตา ระหว่างสัญญาณผสมผสาน
- สถานะปัจจุบันของ BTC: การทดสอบแนวรับสำคัญ
- ปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อราคา BTC
- มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญและ AI
- สถานการณ์ที่เป็นไปได้สำหรับราราคา BTC
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ BTC
ในวันที่ 27 กันยายน 2025 บิทคอยน์กำลังเผชิญกับช่วงเวลาชี้ชะตาที่ราราคา $109,310 โดยทดสอบแนวรับสำคัญที่ $109,200 จากการวิเคราะห์ของทีม BTCC พบว่าแม้ตัวชี้วัดทางเทคนิคบางส่วนแสดงสัญญาณบวก แต่แรงกดดันจากการขายทำกำไรและนโยบาย Fed ยังคงสร้างความไม่แน่นอน เหล่านักขุดเริ่มปรับตัวสู่ธุรกิจโฮสต์ AI ขณะที่สถาบันใหญ่ยังคงแสดงความสนใจผ่านการระดมทุนมูลค่าค่าหลายพันล้าน
สถานะปัจจุบันของ BTC: การทดสอบแนวรับสำคัญ
(ที่มา: TradingView)
ณ วันที่ 27 กันยายน 2025 ราคา Bitcoin อยู่ที่ $109,310.67 ซึ่งต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันที่ $113,993.97 สะท้อนถึงแรงกดดันขาลงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดทางเทคนิคแสดงสัญญาณที่น่าสนใจ:
| ตัวชี้วัด | ค่า | ความหมาย |
|---|---|---|
| MACD | -523.66 | สัญญาณขาลง |
| ฮิสโตแกรม MACD | +1,400.28 | อาจเกิดการเปลี่ยนโมเมนตัม |
| Bollinger Band ล่าง | $109,198.65 | แนวรับสำคัญ |
จากข้อมูลของทีมวิเคราะห์ BTCC และ CoinMarketCap แนวโน้มในขณะนี้สามารถสรุปได้ดังนี้:
- กรณีดีที่สุด: หากราคายึดเหนือ $109,200 ได้ อาจเด้งกลับกลับสู่เส้นกลาง Bollinger Band ที่ $114,000
- กรณีร้ายแรง: การทะลุแนวรับลงไปอาจเร่งการลดลงสู่ระดับ $105,000
- ปัจจัยสนับสนุน: การปรับตัวของนักขุด Bitcoin สู่ธุรกิจ AI และความสนใจจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่
ในมุมมองส่วนตัว ผมมองว่าว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงทดสอบจิตใจนักลงทุน การยืนเหนือแนวรับสำคัญจะสร้างความมั่นใจให้กับตลาด ในขณะที่การร่วงหล่นอาจทำให้เกิดแรงขายตามมาได้
โปรดทราบว่า BTCC เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเท่านั้น โดยให้บริการ spot, contract และ wallet เท่านั้น ไม่มีบริการ staking หรือ casino ใดๆ ทั้งสิ้น
ปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อราคา BTC
การปรับตัวของนักขุด Bitcoin สู่ธุรกิจโฮสต์ AI
หลังเหตุการณ์ Halving ในเดือนเมษายน 2025 ที่ลดรางวัลการขุด Bitcoin ลงครึ่งหนึ่ง บริษัทขุดเหรียญรายใหญ่หลายแห่งเริ่มปรับกลยุทธ์ด้วยการหันมามาทำสัญญาโฮสต์ AI ระยะยาวเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงกว่า กรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ Cipher Mining ที่ทำสัญญามูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์กับ Fluidstack เป็นเวลา 10 ปี ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนทางการเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์จาก Google ด้วย
| บริษัท | มูลค่าค่าสัญญา | ระยะเวลา | ผู้สนับสนุน |
|---|---|---|---|
| Cipher Mining | 3 พันล้านดอลลาร์ | 10 ปี | Google (1.4 พันล้านดอลลาร์) |
| TeraWulf | 3.7 พันล้านดอลลาร์ | ไม่ระบุ | Morgan Stanley |
TeraWulf ก็กำลังเดินหน้าหน้าขยายศูนย์ข้อมูลด้วยแพ็คเกจเงินกู้ 3 พันล้านดอลลาร์ที่ Morgan Stanley เป็นผู้จัดระเบียบ โดยมี Google ให้การสนับสนุนสูงสุดถึง 3.2 พันล้านดอลลาร์ การเปลี่ยนโฟกัสนี้ช่วยสร้างกระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้มากขึ้น เพื่อชดเชยกับรายได้จากรางวัล BTC ที่มีความผันผวนสูงหลัง Halving
แรงกดดันจากการขายทำกำไรและความไม่แน่นอนของ Fed
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2025 ราคา BTC ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ระดับ 108,652 ดอลลาร์ สาเหตุหลักมาจากการขายทำกำไรของนักลงทุนระยะยาว (LTHs) ที่ระบาย BTC ออกมามาาถึง 63,800 เหรียญ ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์
ข้อมูลจาก Glassnode ชี้ให้เห็นว่า LTHs ในวงจรนี้ได้ทำกำไรไปแล้วรวม 3.4 ล้าน BTC ซึ่งมากกว่าวงจรก่อนๆ แสดงให้เห็นถึงการหมุนเวียนของเงินทุนในตลาดที่ชัดเจน
ด้านเศรษฐกิจมหภาค ดัชนีราคา PCE Core ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Federal Reserve ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ อยู่ที่ 2.9% ในเดือนสิงหาคม 2025 สอดคล้องกับความคาดหมายของตลาด แม้ Fed จะตัดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดฐาน แต่ BTC ยังคงเผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐและการปิดพอร์ตเลเวอเรจที่มีมูลค่าค่าสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์
จากมุมมองของทีมวิเคราะห์ BTCC เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนและความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่ในตลาด cryptocurrency แม้ว่า่าจะมีสัญญาณเชิงบวกจากภาคสถาบันและการปรับตัวของอุตสาหกรรมก็ตาม
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญและ AI
ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังอย่าง Peter Schiff ออกมาแสดงความเห็นว่า Bitcoin (BTC) อาจเข้าเข้าสู่ตลาดหมีแล้ว แต่โมเดลปัญญาประดิษฐ์อย่าง ChatGPT และ Grok กลับมีมุมมองที่แตกต่างออกไป โดยมองว่าการปรับตัวลงครั้งนี้เป็นเพียงการพักตัวในกลางวงจรขาขึ้นเท่านั้น
จากข้อมูลทางเทคนิคของ BTCC ทีมนักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า:
| โมเดล AI | มุมมอง | ระดับแนวรับสำคัญ |
|---|---|---|
| ChatGPT | การปรับตัวจาก $124K ลงมา $108K สอดคล้องกับรูปแบบในอดีต | $95,000-$100,000 |
| Grok | ยอดวงจรอาจยังอยู่อีกหลายเดือนข้างหน้า | $105,000-$110,000 |
ผมในฐานะนักวิเคราะห์ของ BTCC เห็นด้วยกับแนวโน้มนี้ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา การปรับตัวลงประมาณ 10-15% ในช่วงกลางวงจรขาขึ้นถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม เราควรจับตาดูระดับแนวรับสำคัญที่ $100,000 อย่างใกล้ชิด
ปัจจัยสนับสนุนมุมมองนี้ได้แก่:
- สถิติในอดีตแสดงให้เห็นการพักตัวคล้ายกันในปี 2017 และ 2021
- ปริมาณการสะสมของนักลงทุนสถาบันยังคงสูง
- ความเชื่อมั่นในตลาดระยะยาวยังไม่สั่นคลอน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปัจจัยเหล่านี้:
ข้อมูลอ้างอิง: CoinMarketCap, TradingView (อัปเดตล่าสุด 26 กันยายน 2025)
สถานการณ์ที่เป็นไปได้สำหรับราราคา BTC
| สถานการณ์ | เป้าหมายราคา | ความน่าจะเป็น |
|---|---|---|
| ทะลุแนวต้านขึ้น | $125,000-$130,000 | 35% |
| เคลื่อนที่ในกรอบ | $109,000-$118,000 | 45% |
| ทะลุแนวรับลง | $105,000-$100,000 | 20% |
การประเมินแนวโน้มราคา BTC
จากการประเมินปัจจัยทางเทคนิคในปัจจุบัน ตลาดกำลังเผชิญกับจุดตัดที่สำคัญ โดยมีแนวโน้มหลัก 3 สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะสั้นถึงกลาง
สำหรับสถานการณ์ที่ดีที่สุด หากราคาสามารถทะลุผ่านระดับต้านทานทางจิตวิทยาที่ $120,000 ได้อย่างมีนัยสำคัญ อาจเปิดทางสู่การทดสอบระดับใหม่ที่ $125,000-$130,000 โดยมีแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสภาพคล่องในตลาด
ในกรณีที่ราคายังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง $109,000-$118,000 ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่มีความน่าจะเป็นสูงที่สุด ควรจับตาพฤติกรรมการสะสมที่ระดับแนวรับและแรงขายที่แนวต้าน
ปัจจัยเสี่ยงหลักที่อาจทำให้ราคาลดลงต่อรวมถึง:
- การปรับฐานของตลาดหุ้นสหรัฐ
- การไหลออกของเงินทุนจากกองทุนดิจิทัล
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายการควบคุมของรัฐบาลในประเทศหลัก
นักลงทุนควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงและติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตลาดคริปโตมีความอ่อนไหวสูงต่อปัจจัยภายนอก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ BTC
ปัจจัยใดที่ส่งผลต่อราคา BTC ในช่วงนี้มากที่สุด?
ปัจจัยหลักได้แก่ 1) การทดสอบแนวรับทางเทคนิคที่ $109,200 2) แรงกดดันจากการขายทำกำไรของนักลงทุนระยะยาว 3) นโยบายการเงินของ Fed หลังข้อมูล PCE และ 4) การปรับตัวของอุตสาหกรรมนักขุดสู่ธุรกิจ AI
การปรับตัวของนักขุด Bitcoin ส่งผลต่อตลาดอย่างไร?
การเปลี่ยนมามาทำธุรกิจโฮสต์ AI ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงกว่าให้กับบริษัทขุด ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องขาย BTC น้อยลงเพื่อการซ่อมบำรุงการดำเนินงาน ซึ่งในระยะยาวอาจลดแรงกดดันด้านอุปทานในตลาด
ควรจับตาอะไรในสัปดาห์หน้า?
1) การยืนหรือทะลุของแนวรับ $109,200 2) ท่า่าทีของ Fed หลังข้อมูล PCE 3) ปริมาณการขายทำกำไรของนักลงทุนสถาบัน และ 4) ข่าวสารเกี่ยวกับการระดมทุนของ Tether กับ SoftBank และ Ark Invest