BlackRock เ เตือน! หนี้สหรัฐฯพุ่งแตะ 38 ล้านล้านบาท สัญญาณวิกฤตตลาดพันธบัตร แต่เป็น "ยุคทองของคริปโต" ในปี 2024
- วิกฤตหนี้สหรัฐฯกับโอกาสทองของตลาดคริปโต
- ทำไม Bitcoin ถึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ?
- โอกาสของ Stablecoin และบทบาทของ AI
- คำถามที่พบบ่อย
BlackRock ยักษ์ใหญ่การเงินโลกออกมาเตือนว่า หนี้สหรัฐฯกำลังพุ่งแตะระดับ 38 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2026 ซึ่งอาจส่งสัญญาณวิกฤตในตลาดพันธบัตร ขณะเดียวกันบริษัทมองว่านี่อาจเป็น "ยุคทองของสินทรัพย์ดิจิทัล" โดยเฉพาะ Bitcoin ที่อาจทำราราคาสูงสุดใหม่ถึง 200,000 ดอลลาร์ พร้อมชี้โอกาสเติบโตของ Stablecoin และการประยุกต์ใช้ AI ในอุตสาหกรรมคริปโต
วิกฤตหนี้สหรัฐฯกับโอกาสทองของตลาดคริปโต
รายงานล่าสุดจาก BlackRock ชี้ให้เห็นว่า หนี้สหรัฐฯกำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่ากังวล และมีแนวโน้มจะแตะระดับ 38 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2026 สถานการณ์นี้สร้างความกดดันอย่างมากต่อตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยดั้งเดิมของนักลงทุนสถาบัน
Larry Fink CEO ของ BlackRock ให้ความเห็นว่า "สถานการณ์หนี้ที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้ผู้เล่นสถาบันเริ่มมองหาสินทรัพย์ทางเลือกใหม่ๆ และ Bitcoin กำลังกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการป้องกันความเสี่ยง (Hedge)"
ทีมวิเคราะห์ BTCC มองว่า วิกฤตหนี้สหรัฐฯครั้งนี้อาจเป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ทำให้ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ SEC อนุมัติ ETF Bitcoin แล้วเมื่อต้นปี
ทำไม Bitcoin ถึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ?
BlackRock มองว่า Bitcoin มีคุณสมบัติสำคัญ 3 ประการที่ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน:
- อุปทานจำกัดเพียง 21 ล้านหน่วย ช่วยป้องกันปัญหาการพิมพ์เงินเเฟ้อ
- สภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- มีประวัติการให้ผลตอบแทนสูงในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
ทีมวิเคราะห์ของบริษัทคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจทำราคาสูงสุดใหม่ที่ระดับ 200,000 ดอลลาร์ภายในปี 2024 นี้ จากปัจจัยด้านอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน
ข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์
โอกาสของ Stablecoin และบทบาทของ AI
นอกจาก Bitcoin แล้ว BlackRock ยังให้ความสนใจกับโอกาสการเติบโตของ Stablecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าค่าคงที่ โดยมักผูกกับสกุลเงินจริงเช่นดอลลาร์สหรัฐฯ
Samara Cohen หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมการลงทุนของ BlackRock กล่าวว่า "Stablecoin กำลังกลายเป็นช่องทางสำคัญสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน และเรามองเห็นโอกาสการเติบโตอย่างมากในตลาดนี้"
ขณะเดียวกัน บริษัทยังชี้ให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยี AI ที่จะเข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะในด้าน:
- การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการขุดคริปโต (Mining)
- การวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อขายแบบเรียลไทม์
- การพัฒนาระบบความปลอดภัยที่ชาญฉลาดขึ้น
รายงานคาดการณ์ว่าว่าภายในปี 2030 ตลาด AI สำหรับคริปโตอาจมีมูลค่าค่าสูงถึง 20% ของมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด
คำถามที่พบบ่อย
BlackRock มองโอกาสของตลาดคริปโตอย่างไร?
BlackRock มองว่าว่าวิกฤตหนี้สหรัฐฯจะเป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ Bitcoin ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน และคาดว่า Bitcoin อาจทำราราคาสูงสุดใหม่ที่ 200,000 ดอลลาร์ในปีนี้
Stablecoin มีโอกาสเติบโตอย่างไร?
Stablecoin กำลังกลายเป็นช่องทางสำคัญสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน และ BlackRock มองเห็นโอกาสการเติบโตอย่างมากในตลาดนี้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับระบบการเงินดั้งเดิม
AI จะมีบทบาทอย่างไรในอุตสาหกรรมคริปโต?
AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายด้านของอุตสาหกรรมคริปโต ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการขุด ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อขายและพัฒนาระบบความปลอดภัยที่ชาญฉลาดขึ้น