BTCC / BTCC Square / S4t0sh1 /
“ดร.พีท” แนะเทคนิคออมเงินแบบเซียน ใช้ชีวิตสุขสันต์ ไม่ต้องเสียไลฟ์สไตล์

“ดร.พีท” แนะเทคนิคออมเงินแบบเซียน ใช้ชีวิตสุขสันต์ ไม่ต้องเสียไลฟ์สไตล์

Author:
S4t0sh1
Published:
2025-06-29 21:12:02
19
2


นักวางแผนการเงินชื่อดังเผยสูตรลับการบริหารเงินแบบได้ทั้งออมและใช้ ชี้หนุ่มสาวยุคใหม่ต้องเริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้ พร้อมแนะวิธีคำนวณเงินเกษียณแบบแม่นยำ และเทคนิคการลงทุนที่ทำได้แม้เงินเดือนน้อย งานนี้ได้ความรู้ครบทุกมิติเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลจากมืออาชีพ!

ทำไมการวางแผนการเงินถึงสำคัญต่อชีวิตเรา?

ดร.พีรภัทร ฝอยทอง หรือ "ดร.พีท" นักวางแผนการเงินส่วนบุคคลชื่อดัง เปิดเผยว่า แม้หลายคนจะบอกว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่เงินคือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความสุขให้ชีวิตได้ การมีเงินเพียงพอสำหรับปัจจัยสี่คือพื้นฐานของชีวิตที่มีความสุข ปัญหาคือคนส่วนใหญ่มักวางแผนการเงินแบบไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงวันที่ต้องเกษียณอายุงาน ซึ่งจะไม่มีเงินเดือนเข้ามาอีกต่อไป

ดร.พีทอธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อเกษียณที่อายุ 60 ปี โดยเฉลี่ยคนเรามีอายุยืนถึง 80 ปี แปลว่าต้องมีเงินใช้ถึง 20 ปีโดยไม่มีรายได้ประจำ ดังนั้นการวางแผนการเงินที่ดีต้องคำนึงถึงระยะยาว โดยเฉพาะค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกปีจากภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่มักเพิ่มขึ้นตามวัย

คำนวณเงินเกษียณอย่างไรให้พอใช้?

ดร.พีทแนะนำวิธีคำนวณเงินเกษียณแบบง่ายๆ ด้วยสูตร "คูณ 200" โดยให้คิดว่าอยากใช้เงินเดือนละเท่าไหร่หลังเกษียณ เช่น หากต้องการใช้เดือนละ 30,000 บาท ให้คูณด้วย 200 จะได้เงินที่ต้องสะสมไว้ 6 ล้านบาท เงินก้อนนี้ต้องนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนต่อเนื่อง

นักวางแผนการเงินรายนี้เตือนว่า เงินจากประกันสังคมและเบี้ยผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ จึงต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า โดยเฉพาะการลงทุนที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงอายุ ซึ่งยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ ยิ่งได้เปรียบเพราะเงินมีเวลางอกเงยมากขึ้น

เทคนิคออมเงินสำหรับคนเงินเดือนน้อย

สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทำงานหรือมีเงินเดือนไม่มาก ดร.พีทแนะให้นำหลักการ "จ่ายเงินให้ตัวเองก่อน" มาใช้ โดยหักเงินออมจากรายได้ทันทีที่ได้รับเงินเดือน แม้จะเป็นจำนวนน้อยเพียง 500-1,000 บาทต่อเดือนก็ตาม เพราะการออมเล็กๆ น้อยๆ แต่สม่ำเสมอจะให้ผลดีในระยะยาว

นอกจากนี้ยังแนะนำให้มีเงินสำรองฉุกเฉินประมาณ 6 เดือนของค่าใช้จ่ายประจำเดือน แต่ไม่ควรเก็บเงินสดไว้มากเกินไปเพราะเสียโอกาสในการลงทุน ส่วนหนี้สินที่ดีไม่ควรเกิน 60% ของรายได้ต่อเดือน

ลงทุนอะไรดีให้เงินทำงาน?

ดร.พีทเน้นย้ำว่า การออมเงินเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องนำเงินไปลงทุนด้วย โดยพิจารณาว่าสิ่งที่ซื้อเป็นการลงทุนจริงหรือไม่ เช่น ทองรูปพรรณอาจไม่ใช่การลงทุนที่ดีเพราะกำไรน้อยเมื่อขายออก แต่ทองแท่งอาจให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

นักวางแผนการเงินแนะนำให้กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย เช่น ตราสารหนี้หรือกองทุนรวม และควรปรึกษานักวางแผนการเงินอิสระที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อให้ได้แผนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

สมดุลระหว่างการออมและการใช้ชีวิต

เคล็ดลับสำคัญที่ดร.พีทย้ำคือ "อย่าให้การออมทำให้เสียไลฟ์สไตล์" ต้องปรับการออมให้เข้ากับวิถีชีวิตของตัวเอง ไม่ควรทรมานตัวเองจนเกินไป เพราะจุดประสงค์ของการออมเงินคือเพื่อชีวิตที่มีความสุขทั้งปัจจุบันและอนาคต

นักวางแผนการเงินสรุปว่า การวางแผนการเงินที่ดีต้องเริ่มตั้งแต่ยังหนุ่มสาว มีวินัย และทบทวนแผนเป็นระยะเมื่อชีวิตเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญคือต้อง "ใช้ชีวิตไปด้วย ออมเงินไปด้วย" อย่างสมดุล จึงจะบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างแท้จริง

ดร.พีรภัทร ฝอยทอง ให้คำแนะนำเรื่องการวางแผนการเงิน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการวางแผนการเงิน

ควรเริ่มวางแผนการเงินเมื่อไหร่ดี?

ตอบ: ควรเริ่มวางแผนการเงินทันทีที่มีรายได้ประจำ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะเงินจะมีเวลางอกเงยมากขึ้น ดร.พีทแนะนำว่า อายุ 25-30 ปีเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงจัง

ถ้ามีเงินเดือนน้อย จะออมยังไงให้เพียงพอ?

ตอบ: เริ่มจากจำนวนเล็กน้อยก่อน เช่น 500-1,000 บาทต่อเดือน แล้วค่อยเพิ่มเมื่อรายได้มากขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องมีวินัยออมสม่ำเสมอ ใช้หลักการ "จ่ายเงินให้ตัวเองก่อน" ด้วยการหักเงินออมทันทีที่ได้เงินเดือน

จำเป็นต้องใช้บริการนักวางแผนการเงินหรือไม่?

ตอบ: การปรึกษานักวางแผนการเงินอิสระจะช่วยให้ได้แผนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเหมือนการไปปรึกษาธนาคารหรือบริษัทประกัน ซึ่งมักจะเสนอผลิตภัณฑ์ของตัวเอง นักวางแผนจะช่วยคำนวณและออกแบบแผนที่ตรงกับความต้องการของคุณ

เงินสำรองฉุกเฉินควรมีเท่าไหร่?

ตอบ: ดร.พีทแนะนำให้มีเงินสำรองฉุกเฉินประมาณ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน เก็บในรูปแบบที่ถอนมาใช้ได้ง่าย แต่ไม่ควรเก็บเงินสดไว้มากเกินไปเพราะเสียโอกาสในการลงทุน

ลงทุนอะไรดีสำหรับมือใหม่?

ตอบ: สำหรับผู้เริ่มต้น ควรเลือกลงทุนในสิ่งที่เข้าใจง่ายและมีความเสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้ กองทุนรวมตลาดเงิน หรือสลากออมสิน ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความหลากหลายของพอร์ตลงทุนเมื่อมีความรู้มากขึ้น

|Square

ดาวน์โหลดแอป BTCC เพื่อเริ่มต้นเส้นทางคริปโตของคุณ

สมัครเลยวันนี้ สแกน เพื่อเข้าร่วมชุมชนที่มีผู้ใช้ กว่า 100 ล้านคน