“ลักเซมเบิร์ก” ขึ้นแท่นประเทศแรกในยูโรโซนที่ลงทุนใน Bitcoin ผ่านกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (2025)
- ลักเซมเบิร์กกับการลงทุนใน Bitcoin
- ความสำคัญของการลงทุนครั้งนี้
- ผลกระทบต่อตลาด cryptocurrency
- คำถามที่พบบ่อย
ลักเซมเบิร์กกลายเป็นประเทศแรกในเขตยูโรโซนที่ประกาศลงทุนใน Bitcoin ผ่านกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (FSIL) โดยจัดสรรเงิน 1% ของกองทุนเพื่อซื้อ Bitcoin ETF ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในวงการการเงินระดับโลก และสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
ลักเซมเบิร์กกับการลงทุนใน Bitcoin
กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติลักเซมเบิร์ก (FSIL) ได้ประกาศลงทุน 1% ของสินทรัพย์ใน Bitcoin ETF เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2025 โดยการลงทุนครั้งนี้มีมูลค่าค่าประมาณ 730 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งใหญ่ของประเทศในกลุ่มยูโรโซน
Gilles Roth รัฐมนตรีว่าว่าการกระทรวงการคลังลักเซมเบิร์ก กล่าวว่า "การลงทุนใน Bitcoin เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงของเรา และเราเชื่อว่าว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกในอนาคต"
ความสำคัญของการลงทุนครั้งนี้
การตัดสินใจของลักเซมเบิร์กเกิดขึ้นหลังจากที่ตลาด Bitcoin ETF เ เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2025 โดยข้อมูลจาก SoSoValue ชี้ให้เห็นว่า Spot Bitcoin ETF มีมูลค่าการซื้อขายสะสมสูงถึง 168,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 6.86% ของมูลค่าตลาด Bitcoin ทั้งหมด
Jonathan Westhead นักวิเคราะห์จาก BTCC กล่าวว่า "การตัดสินใจของลักเซมเบิร์กอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ประเทศอื่นๆ ในยุโรปพิจารณาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจังมากขึ้น"
ผลกระทบต่อตลาด cryptocurrency
ในวันที่ประกาศข่าว ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้น 0.5% อยู่ที่ 121,877 ดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap ซึ่งสะท้อนถึงปฏิกิริยาบวกของตลาดต่อข่าวการลงทุนจากลักเซมเบิร์ก
แหล่งที่มา: cryptopolitan
คำถามที่พบบ่อย
ลักเซมเบิร์กลงทุนใน Bitcoin ผ่านช่องทางใด?
ลักเซมเบิร์กลงทุนใน Bitcoin ผ่าน Bitcoin ETF โดยจัดสรรเงิน 1% จากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (FSIL)
การลงทุนครั้งนี้มีมูลค่าเท่าไร?
การลงทุนมีมูลค่าประมาณ 730 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เหตุใดลักเซมเบิร์กจึงตัดสินใจลงทุนใน Bitcoin?
ทางการลักเซมเบิร์กมองว่า Bitcoin เป็นเครื่องมือกระจายความเสี่ยงและเชื่อว่าจะมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกในอนาคต