Bitcoin ร่วงหนักทะลุ $119,000 หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีจีน — ตลาดสั่นอีกครั้งในปี 2025
- เกิดอะไรขึ้นกับ Bitcoin?
- ข้อมูลทางเทคนิคของ Bitcoin
- ปฏิกิริยาจากนักวิเคราะห์
- บทสรุปสำหรับนักลงทุน
- คำถามที่พบบ่อย
ตลาดคริปโตกำลังสั่นสะเทือนอีกครั้งหลังโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่ขึ้นภาษีสินค้า้าจีน ส่งผลให้ Bitcoin ร่วงหนักทะลุระดับ $119,000 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2025 ตามข้อมูลจาก Binance โดยลดลง 1.69% มามาอยู่ที่ $118,961 จากจุดสูงสุด 24 ชั่วโมงที่ $122,550
เกิดอะไรขึ้นกับ Bitcoin?
ความผันผวนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าจะขึ้นภาษีสินค้า้าจีน 10% ในปี 2025 โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยีและแร่หายาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกทันที นักวิเคราะห์จาก BTCC ระบุว่า "นี่เป็นปฏิกิริยาตามปกติของตลาดต่อความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น"
ข้อมูลทางเทคนิคของ Bitcoin
จากข้อมูลของ TradingView: - RSI ของ Bitcoin ตกถึง 15 บน Binance ซึ่งถือว่า oversold แล้ว - ปริมาณการซื้อขายใน 24 ชั่วโมงสูงถึง 20% - แนวรับสำคัญอยู่ที่ $118,000
ปฏิกิริยาจากนักวิเคราะห์
Alek Carter นักวิเคราะห์ชื่อดังทวีตว่า: "JUST IN: #BITCOIN FALLS BELOW $119000 - Market reacting sharply to rising geopolitical tensions. Volatility is back. Stay alert."
ผลกระทบในระยะยาว
Bloomberg Intelligence ชี้ว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนอาจส่งผลให้ Bitcoin ผันผวนต่อเนื่องอีก 5-10% ในไตรมามาสสุดท้ายของปี 2025 โดยเฉพาะหากมีการประกาศมาตรการเพิ่มเติมจากทั้งสองฝ่าย
บทสรุปสำหรับนักลงทุน
ในภาวะตลาดผันผวนเช่นนี้ นักลงทุนควร: 1. ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด 2. กระจายความเสี่ยงในพอร์ต 3. ตั้ง Stop-Loss เพื่อป้องกันความเสี่ยง 4. ใช้ Dollar-Cost Averaging
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ข้อมูลอ้างอิงจาก CoinMarketCap และ TradingView ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2025
คำถามที่พบบ่อย
ทำไม Bitcoin ถึงร่วงหนัก?
เกิดจากความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีสินค้าจีน 10% ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง
ควรลงทุนใน Bitcoin ตอนนี้หรือไม่?
ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคล ในภาวะตลาดผันผวน ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ
แนวโน้ม Bitcoin ในปี 2025 เป็นอย่างไร?
นักวิเคราะห์คาดว่าจะยังคงผันผวนสูงจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ แต่ในระยะยาวยังมองว่าว่ามีโอกาสเติบโต