ราชกิจจาฯ ประกาศกฎกระทรวงใหม่! ยกเว้นภาษีคริปโตฯ 5 ปี หนุนไทยเป็นฮับดิจิทัลไฟแนนซ์แห่งเอเชีย (อัปเดต 2025)
- ไทยลั่นสตาร์ทเครื่อง! เปิดทางนิวฮับคริปโตฯ แปซิฟิก
- 5 ปีทองสำหรับนักลงทุนดิจิทัล
- คำถามที่นักลงทุนคริปโตฯ ต้องรู้
รัฐบาลไทยเดินหน้าหน้าครั้งใหญ่! ล่าสุด ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่กฎกระทรวงฉบับใหม่ว่าว่าด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับรายได้จากคริปโตเคอร์เรนซีเป็นเวลา 5 ปีเต็ม เริ่มบังคับใช้ทันทีในปี 2025 นโยบายนี้ถือเป็นเกมเชนเจอร์ที่อาจพลิกโฉมวงการการเงินดิจิทัลไทย ให้กลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีบล็อกเชนของภูมิภาค มามาดูกันว่าว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง และนักลงทุนจะได้ประโยชน์อย่างไร
ไทยลั่นสตาร์ทเครื่อง! เปิดทางนิวฮับคริปโตฯ แปซิฟิก
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 กระทรวงการคลังได้ออกกฎกระทรวงฉบับใหม่ที่สร้างความฮือฮาในวงการคริปโตเคอร์เรนซี โดยประกาศยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรจากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภท เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป
มาตรการนี้ครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) หรือ Stablecoin ต่างๆ โดยมีผลย้อนหลังสำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลไฟแนนซ์ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นักวิเคราะห์มองว่าว่ามาตรการนี้จะช่วยดึงดูดนักลงทุนและบริษัทคริปโตจากทั่วโลกให้เข้ามาตั้งฐานในประเทศไทย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากปัจจัยเสริมอื่นๆ เช่น:
- โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- แรงงานด้านไอทีที่มีคุณภาพ
- นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐที่ชัดเจน
ทั้งนี้ กฎกระทรวงดังกล่าวยังช่วยลดความกังวลของนักลงทุนในประเด็นทางภาษี และคาดว่าจะส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในระยะเวลาอันใกล้
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา หรือเว็บไซต์กระทรวงการคลัง ซึ่งมีการเผยแพร่ข้อมูลอย่างเป็นทางการแล้ว
5 ปีทองสำหรับนักลงทุนดิจิทัล
จากข้อมูลของ CoinMarketCap พบว่าว่าปริมาณการซื้อขายสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซีในประเทศไทยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 มีอัตราการเติบโตสูงถึง 300% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มนักลงทุนไทย
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดคริปโตฯ ในไทยขยายตัว ได้แก่ การเปิดตัวแพลตฟอร์มซื้อขายใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาด นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะมาตรการยกเว้นภาษีเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการลงทุนจากต่างชาติได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี
| 2567 | ฐานเปรียบเทียบ | - |
| 2568 | 300% | มาตรการยกเว้นภาษี, แพลตฟอร์มใหม่ |
นักวิเคราะห์จากตลาดหลักทรัพย์ให้ความเห็นว่า "มาตรการทางการเงินนี้ไม่เพียงแต่จะดึงดูดนักลงทุนสถาบันเท่านั้น แต่ยังสร้างโอกาสให้กับนักลงทุนรายย่อยได้มีส่วนร่วมในตลาดดิจิทัลแอสเซตมากขึ้น" โดยขอสงวนนามเนื่องจากนโยบายของบริษัท
การพัฒนาดังกล่าวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงินดิจิทัลของภูมิภาค ซึ่งต้องอาอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมนี้
คำถามที่นักลงทุนคริปโตฯ ต้องรู้
มาตรการนี้ครอบคลุมคริปโตฯ ทุกประเภทหรือไม่?
ใช่แล้ว! กฎหมายฉบับใหม่ให้การยกเว้นภาษีกับสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภทที่ถูกกฎหมายในไทย รวมถึงเหรียญสกุลต่างๆ และโทเคนที่ออกโดยบริษัทไทย
จะเริ่มใช้บังคับเมื่อไร?
มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา (5 กันยายน 2568) โดยให้ผลย้อนหลังถึงรายได้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 1 มกราคม 2568