LINE x KAIA เปิดตัวซูเปอร์แอปคริปโตแห่งอนาคต พร้อมลุ้นใช้งาน Stablecoin เงินบาทในเร็วๆ นี้
- ความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง LINE NEXT และ Kaia
- Project Unify: ซูเปอร์แอปคริปโตแห่งอนาคต
- Stablecoin เงินบาท: อนาคตของการชำระเงิน
- วิสัยทัศน์และแผนการในอนาคต
- คำถามที่พบบ่อย
LINE NEXT และ Kaia DLT Foundation ร่วมมือกันพัฒนา "Project Unify" ซูเปอร์แอปคริปโตที่รวมทุกฟีเจอร์การใช้งานคริปโตเคอร์เรนซีไว้ในที่เดียว โดยมีแผนรองรับ Stablecoin เงินบาทในอนาคต ซึ่งจะปฏิวัติวงการการเงินดิจิทัลในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง LINE NEXT และ Kaia
Dr. Sangmin Seo ซีอีโอของ Kaia DLT Foundation ได้เปิดเผยถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง LINE NEXT และ Kaia ภายใต้โครงการ "Project Unify" ซึ่งมุ่งรวมเทคโนโลยีบล็อกเชนของ KAIA เข้ากับฐานผู้ใช้กว่า 100 ล้านคนของ LINE Messenger ในภูมิภาคเอเชีย เพื่อสร้างระบบนิเวศคริปโตที่สมบูรณ์แบบ
รายละเอียดโครงการ
โครงการนี้จะพัฒนาซูเปอร์แอปคริปโตที่ผสานฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ เข้า้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการนำ Stablecoin ที่มีสกุลเงินบาทเป็นหลักค้ำประมาใช้ในระบบในอนาคต ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินดิจิทัลสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
เทคโนโลยีและความสามารถ
KAIA นำเสนอเทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีประสิทธิภาพสูง ในขณะที่ LINE NEXT มีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ในเอเชีย ความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างแพลตฟอร์มที่รวมจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย:
- การเข้าเข้าถึงผู้ใช้งานจำนวนมากผ่าน LINE Messenger
- เทคโนโลยีบล็อกเชนที่รวดเร็วและปลอดภัยจาก KAIA
- ระบบ Stablecoin ที่มีเสถียรภาพ
- ประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ไร้รอยต่อ
แผนงานในอนาคต
ทีมงานทั้งสองฝ่ายกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดตัวฟีเจอร์แรกได้ในอนาคตอันใกล้ โครงการนี้มีศักยภาพที่จะปฏิวัติวงการคริปโตเคอร์เรนซีในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในด้านการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
ทั้ง LINE NEXT และ Kaia ต่างแสดงความมั่นใจว่าโครงการนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการใช้งานบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซีในระดับผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นที่ความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นหลัก
Project Unify: ซูเปอร์แอปคริปโตแห่งอนาคต
ภาพรวมของ Project Unify
Project Unify เป็นแพลตฟอร์มคริปโตแบบครบวงจรที่กำลังถูกพัฒนาโดยความร่วมมือระหว่าง LINE NEXT และ Kaia DLT Foundation โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมทุกฟังก์ชันการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีไว้ในที่เดียว แพลตฟอร์มนี้จะช่วยลดความซับซ้อนในการใช้งานเทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
ฟีเจอร์หลักของแพลตฟอร์ม
- กระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet): สำหรับเก็บและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัย
- ระบบแลกเปลี่ยน (Exchange): ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีได้อย่างสะดวก
- ตลาด NFT: พื้นที่สำหรับซื้อขายและแลกเปลี่ยน NFT
- บริการ DeFi: ให้บริการทางการเงินแบบกระจายศูนย์
- ระบบชำระเงินด้วย Stablecoin: โดยเฉพาะ Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับเงินบาท
ความร่วมมือระหว่าง LINE NEXT และ Kaia
ดร. Sangmin Seo จาก Kaia DLT Foundation เปิดเผยว่า Project Unify จะถูกพัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ทันสมัย โดยจะผสานรวมเข้ากับ LINE Messenger เพื่อให้เข้าเข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากได้ง่ายขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้คาดว่าจะสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับซูเปอร์แอปคริปโตในภูมิภาคเอเชีย
แผนการในอนาคต
ทีมพัฒนาวางแผนที่จะเปิดตัว Project Unify อย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้ โดยเน้นการสร้างระบบนิเวศคริปโตที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งรวมถึง:
- การพัฒนาระบบ Stablecoin เงินบาท
- การสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่เรียบง่าย
- การรับรองความปลอดภัยในระดับสูง
ทั้งนี้ Project Unify ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักลงทุนมืออาชีพ โดยคาดว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีในชีวิตประจำวัน
Stablecoin เงินบาท: อนาคตของการชำระเงิน
ความร่วมมือระหว่าง LINE NEXT และ Kaia DLT Foundation กำลังพัฒนาซูเปอร์แอปคริปโตที่อาจรวม Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับเงินบาทไทยในอนาคต โดยใช้ชื่อโครงการว่า "Project Unify" ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดความผันผวนของคริปโตเคอร์เรนซีและทำให้สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริง
รายละเอียดโครงการ
ทีมงานระบุว่าว่ากำลังอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย โดย Dr. Sangmin Seo จาก Kaia DLT Foundation เปิดเผยว่าโครงการนี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศคริปโตที่เสถียรและใช้งานง่ายมากขึ้น
ประโยชน์ของ Stablecoin เงินบาท
- ลดความผันผวนของราราคาเมื่อเทียบกับคริปโตเคอร์เรนซีทั่วไป
- อำนวยความสะดวกในการชำระเงินในชีวิตประจำวัน
- เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานทั่วไป
ทั้งนี้ โครงการยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและต้องผ่านกระบวนการพิจารณาจากหน่วยงานกำกับดูแลก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ผู้ใช้งานควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจใช้งาน
ที่มา: ข้อมูลจากทีมพัฒนาโครงการ
วิสัยทัศน์และแผนการในอนาคต
ทีมงานทั้งสองฝ่ายมองว่า Project Unify จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คริปโตเข้าเข้าถึงมวลชนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ LINE มีฐานผู้ใช้แข็งแกร่ง
ความร่วมมือนี้มุ่งพัฒนาซูเปอร์แอปคริปโตที่ผสานฟังก์ชันการใช้งานครบวงจร โดยมีแผนรองรับสกุลเงินดิจิทัลที่อิงกับค่าเงินบาทในอนาคต ซึ่งจะช่วยลดความซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น
ตัวแทนจาก Kaia ระบุว่าเทคโนโลยีของพวกเขาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบ โดยเฉพาะด้านความเร็วและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ที่สำคัญคือการออกแบบให้ใช้งานง่ายผ่านแอปพลิเคชันยอดนิยม
จากการศึกษาข้อมูลล่าสุดพบว่า:
- ความต้องการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่เสถียรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- ผู้ใช้งานใหม่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
- ภูมิภาคนี้แสดงอัตราการเติบโตสูงสุดในตลาดเอเชีย
ผู้ใช้งานควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
คำถามที่พบบ่อย
Project Unify จะเปิดตัวเมื่อไร?
คาดว่าจะเริ่มทดสอบระบบในไตรมามาสสุดท้ายของปี 2025 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2026
Stablecoin เงินบาทจะใช้งานได้เมื่อไร?
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบและหารือกับหน่วยงานกำกับดูแล ยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจน
จะต้องมีความรู้เรื่องคริปโตมาก่อนหรือไม่?
แอปพลิเคชันนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายแม้สำหรับผู้เริ่มต้น โดยมีระบบช่วยเหลือและคำแนะนำภายในแอป