เจ้าของ NYSE เจรจาลงทุนใน MoonPay มูลค่าบริษัท 5 หมื่นล้านดอลลาร์
- Intercontinental Exchange มีรายงานว่ากำลังวางแผนลงทุนใน MoonPay โดยมุ่งหวังได้รับผลประโยชน์จากด้านการชำระเงินของตลาดคริปโต
- MoonPay มีมูลค่าล่าสุดที่ 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2021 ช่วงตลาดกระทิงคริปโตรอบที่ผ่านมา
- ทั้ง ICE และ MoonPay ยังไม่แสดงความเห็นต่อสาธารณะเกี่ยวกับการเจรจาดังกล่าว
Intercontinental Exchange (ICE) เจ้าของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาลงทุนในบริษัทบริการชำระเงินคริปโต MoonPay ในการระดมทุนรอบใหม่ซึ่งอาจทำให้มูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์
จากรายงานของบลูมเบิร์ก การเจรจายังคงดำเนินอยู่และอาจไม่นำไปสู่ข้อตกลงที่สมบูรณ์ แหล่งข่าวในรายงานระบุว่า MoonPay ใกล้จะเสร็จสิ้นการระดมทุนรอบนี้แล้ว แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นที่ ICE อาจได้รับและเงื่อนไขสุดท้ายยังไม่มีความชัดเจน
หากการระดมทุนสำเร็จในมูลค่าที่ตั้งเป้าไว้ รอบนี้จะถือเป็นการเพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์ระดมทุนหลักล่าสุดของ MoonPay ในปลายปี 2021 เมื่อบริษัทมีมูลค่าประมาณ 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์
แนวทางของ ICE ในการเข้าถึงตลาดคริปโต
Intercontinental Exchange เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังในเรื่องคริปโตมาโดยตลอด แม้ผู้ดำเนินการตลาดจะสนับสนุนกิจการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bakkt แต่ก็ยังคงหลีกเลี่ยงการดำเนินการหรือส่งเสริมแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตด้วยตนเอง
การถือหุ้นใน MoonPay จะสอดคล้องกับรูปแบบเดิม แทนที่จะรับความเสี่ยงด้านตลาดที่เชื่อมโยงกับราคาโทเค็น การลงทุนนี้จะทำให้ ICE ได้รับผลประโยชน์จากด้านการชำระเงินของคริปโต
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในตลาดมองว่าผู้ให้บริการชำระเงินและช่องทางเข้าถึง (on-ramp) เป็นหนึ่งในส่วนที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมคริปโตในปี 2025 โดยเฉพาะเมื่อสเตเบิลคอยน์ สินทรัพย์ที่เป็นโทเค็น และการชำระหนี้บนบล็อกเชนได้รับความนิยมมากขึ้น ความชัดเจนด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับการชำระเงินดิจิทัลในเขตอำนาจหลักยังเพิ่มความน่าสนใจของบริษัทที่ดำเนินงานภายใต้กรอบการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่แล้ว
ทั้ง ICE และ MoonPay ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเจรจาดังกล่าว การเจรจาแบบนี้อาจยังล้มเหลวหรือส่งผลให้เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ขนาดเล็ก แทนที่จะเป็นบทบาทนำในรอบระดมทุน
บริบทตลาด
ปี 2025 ตลาดคริปโตได้เปลี่ยนจากการเก็งกำไรไปสู่การเติบโตที่ขับเคลื่อนโดยโครงสร้างพื้นฐานและประโยชน์ใช้สอย โดยเฉพาะในด้านเช่น สเตเบิลคอยน์และเครือข่ายการชำระหนี้ การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบในตลาดหลัก เช่น Clarity Act ในสหรัฐอเมริกาและการปฏิบัติตาม MiCA ในสหภาพยุโรป ได้ผลักดันให้ผู้เล่นระดับสถาบันมีแนวทางใหม่ โดยให้ความสำคัญกับพันธมิตรที่มีระบบการจัดการความเสี่ยงที่แข็งแกร่งและธรรมาภิบาลที่โปร่งใส


แปลโดย AltC0de