BNB Chain และ Hyperliquid ครองส่วนแบ่งค่าธรรมเนียม Layer-1 กว่าครึ่ง
ภาพรวมค่าธรรมเนียมบล็อกเชน Layer-1 (L1) ในปี 2025 เปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดย BNB Chain และ Hyperliquid กลายเป็นผู้เล่นหลักท่ามกลางความนิยมการเทรดอนุพันธ์บนเชนที่พุ่งสูงขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งสองเครือข่ายรวมกันคิดเป็น ~60% ของค่าธรรมเนียม L1 ทั้งหมด! 👀
— Altcoin Buzz (@Altcoinbuzzio) 29 ตุลาคม 2025
ต้นปีที่ผ่านมา Ethereum ครองส่วนแบ่งค่าธรรมเนียม L1 กว่าครึ่ง แต่ภายในเดือนตุลาคม ส่วนแบ่งลดลงเหลือ เพียง 20% ขณะที่ BNB Chain และ Hyperliquid พุ่งขึ้นจาก 10% เป็น 60% สะท้อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงสร้างตลาด
การเทรดอนุพันธ์เปลี่ยนโฉมรายได้ L1
การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านจากกิจกรรมเหรียญมีมค่าธรรมเนียมต่ำ สู่ ตลาดอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ ความต้องการเทรด perpetual แบบไม่มีคนกลางและค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการสร้างรายได้ของเครือข่าย Layer-1
ความเติบโตของ Hyperliquid มาจากการเปิดตัว HIP-3 ที่เปิดให้เทรด perpetual futures แบบไม่ต้องขออนุญาต พร้อมลดค่าธรรมเนียมเชิงกลยุทธ์
ใน ไตรมาส 1 ปี 2025 Hyperliquid สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม 50 ล้านดอลลาร์ และพุ่งไปถึง 200 ล้านดอลลาร์ ใน ไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการเติบโต 300%
แพลตฟอร์มบันทึกปริมาณการเทรด 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ใน Q2 2025 ส่งผลให้รายได้สะสม 12 เดือนอยู่ที่ 800 ล้านดอลลาร์ และปัจจุบันมียอดรวมเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ Hyperliquid ครองส่วนแบ่ง 40% ในตลาด DEX perpetual futures สูงกว่า คู่แข่งรายใกล้เคียงถึง 2 เท่า
BNB Chain เร่งเครื่องด้วยระบบนิเวศของ Binance
BNB Chain ก็ทะลุยอด 300 ล้านดอลลาร์ จากค่าธรรมเนียมรายสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากการบูรณาการกับ ระบบนิเวศ Binance ช่องทางเข้าถึงผู้ใช้ปลายทางอย่าง Binance Pay และ Trust Wallet ช่วยดันกิจกรรมและสภาพคล่องเข้าสู่เครือข่าย เสริมตำแหน่งเชนสำหรับการเทรด
การอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐาน เช่น BSC 2.0 ช่วยกักเก็บผู้ใช้อนุพันธ์ไว้ในระบบนิเวศ สะพานเชื่อมระหว่างโครงสร้างพื้นฐาน CEX ของ Binance และบล็อกเชนในเครือสร้างผลลัพธ์ด้านการรักษาผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน BNB Chain และ Hyperliquid สร้าง 60% ของค่าธรรมเนียม L1 เพิ่มขึ้นจาก 10% เมื่อปีก่อน สะท้อนการเปลี่ยนผ่านจาก กิจกรรมเหรียญมีม สู่ การเทรดอนุพันธ์
Solana และ Ethereum เสียส่วนแบ่งค่าธรรมเนียม
ในทางตรงกันข้าม Solana ลดลง เหลือ 15% หลังจากกิจกรรมเทรดเหรียญมีมซบเซาจากกระแส Dogwifhat ที่คลี่คลายลง
แม้ Ethereum ยังเป็น L1 อเนกประสงค์ที่แข็งแกร่ง แต่ ส่วนแบ่งค่าธรรมเนียม 20% ของมันยังต่ำกว่า Hyperliquid ถึงครึ่งหนึ่ง ความแตกต่างนี้ชี้ให้เห็นว่า ประเภทกิจกรรมหลัก (อนุพันธ์ vs. dApps) ส่งผลต่อความผันผวนของเศรษฐศาสตร์เครือข่ายในระยะสั้น
ในอนาคต Ethereum ต้องเผชิญความกดดันเพื่อ ปรับปรุง scalability ส่วนการฟื้นตัวของ Solana อาจขึ้นอยู่กับ การกลับมาของ NFT หรือโมเมนตัมเก็งกำไรใหม่
ปี 2026 Jump Crypto วางแผนเปิดตัว ตลาดอนุพันธ์ระดับสถาบัน บน Solana ซึ่งอาจเพิ่มความน่าเชื่อถือแต่ไม่ช่วยปิดช่องว่างค่าธรรมเนียมจากตลาดอนุพันธ์โดยตรง
ตราบใดที่ ความนิยมอนุพันธ์ยังคงอยู่ นักวิเคราะห์คาดว่า BNB Chain และ Hyperliquid จะ ครองส่วนแบ่งต่อเนื่อง ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการสร้างมูลค่าในระบบนิเวศ Layer-1
แปลโดย QuantumCoin99
