สหรัฐฯ เสี่ยง ‘ชัตดาวน์’ กระทรวงแรงงานอาจระงับประกาศตัวเลขจ้างงานและเงินเเฟ้อสำคัญในปี 2025
- เกิดอะไรขึ้นกับกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ?
- ข้อมูลเศรษฐกิจใดบ้างที่อาจได้รับผลกระทบ?
- เหตุใดข้อมูลเหล่านี้จึงสำคัญต่อตลาดการเงิน?
- รัฐบาลสหรัฐฯ จะปิดทำการทั้งหมดหรือไม่?
- มีทางออกอะไรบ้าง?
- นักลงทุนควรเตรียมตัวอย่างไร?
วิกฤตการเมืองในสหรัฐอเมริกากำลังนำไปสู่ความเสี่ยงของการปิดรัฐบาล (Government Shutdown) ซึ่งอาจส่งผลให้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (Department of Labor - DOL) ต้องระงับการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ ที่นักลงทุนและตลาดการเงินทั่วโลกจับตามอง
เกิดอะไรขึ้นกับกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ?
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงสำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics - BLS) อาจต้องหยุดการทำงานบางส่วนหากรัฐสภาสหรัฐฯ ไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณได้ภายในวันที่ 30 กันยายน 2025 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดปีงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สถานการณ์นี้จะทำให้การเผยแพร่ข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจหลายรายการถูกระงับชั่วคราว
ข้อมูลเศรษฐกิจใดบ้างที่อาจได้รับผลกระทบ?
ข้อมูลสำคัญที่อาจถูกระงับการประกาศ ได้แก่:
- รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ที่กำหนดประกาศในวันที่ 3 ตุลาคม 2025
- ดัชนีราราคาาผู้บริโภค (Consumer Price Index - CPI) ที่กำหนดประกาศในวันที่ 15 ตุลาคม 2025
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ที่ออกเป็นรายสัปดาห์
เหตุใดข้อมูลเหล่านี้จึงสำคัญต่อตลาดการเงิน?
ข้อมูลทางเศรษฐกิจจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ใช้พิจารณานโยบายการเงิน โดยเฉพาะการตัดสินใจปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ย Fed จะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ตุลาคม 2025 และข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เห็นแนวโน้มเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
รัฐบาลสหรัฐฯ จะปิดทำการทั้งหมดหรือไม่?
แม้ว่าการปิดรัฐบาลจะส่งผลให้หน่วยงานรัฐบางส่วนหยุดทำงาน แต่บริการที่จำเป็น (essential services) เช่น การรักษาความปลอดภัย การบริการด้านสุขภาพฉุกเฉิน และโครงการประกันสังคม (Social Security) และเมดิแคร์ (Medicare) จะยังคงดำเนินการต่อ เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายบังคับ (mandatory spending) ที่ไม่ต้องผ่านการอนุมัติงบประมาณรายปี
มีทางออกอะไรบ้าง?
รัฐสภาภาสหรัฐฯ อาจพิจารณาาผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว (Continuing Resolution - CR) เพื่อขยายเวลาการเจรจางบประมาณออกไป ซึ่งเคยเกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในประเด็นต่างๆ อาจทำให้กระบวนการนี้ล่าช้ากว่าปกติ
นักลงทุนควรเตรียมตัวอย่างไร?
ในกรณีที่เกิดการปิดรัฐบาล นักลงทุนควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและพิจารณาปรับกลยุทธ์การลงทุน โดยเฉพาะในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรที่อาจมีความผันผวนเพิ่มขึ้น จากข้อมูลของ CNBC การปิดรัฐบาลในอดีตมักส่งผลให้ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอนในระยะสั้น แต่ผลกระทบในระยะยาวมักจำกัด